วันพฤหัสบดีที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2553

วิเคราะห์ข้อสอบผู้บริหารสถานศึกษา(ภาค ก)-01

วิเคราะห์ข้อสอบผู้บริหารสถานศึกษา

๑. ความผิดวินัยร้ายแรงตามข้อใดถูกต้องที่สุด ?
ก.การละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่าสิบห้าวันโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
ข. ครูลงชื่อปฏิบัติหน้าที่ราชการแทนผู้อื่น
ค. การละทิ้งหน้าที่สอนไปดื่มสุรา
ง. ถูกทุกข้อ
ข้อสอบข้อนี้ต้องใช้กฎหมายแม่บท พ.ร.บ ระเบียบข้าราชการครู ๔๗ มาตอบ ท่านคิดว่าข้อไหนถูกส่วนใหญ่จะเลือกข้อ ก หรือ ข้อ ง กัน ถ้าเลือกข้อ ก แสดงว่าข้อ ค กับ ข ไม่มีน้ำหนัก หรือมีแต่ไม่มากที่สุด บางท่านเสียดายข้อ ข และ ค จึง เลือกข้อ ง ถ้าเลือกข้อ ง แสดงว่าข้อ ค และ ข ก็ถูกที่สุดด้วย โจทย์ต้องการข้อที่ถูกที่สุดถ้าเลือกข้อ งแสดงว่า ก ข ค ง ถูกเท่ากัน ไม่มีข้อไหนถูกที่สุด มาลองดูแบบนี้บ้างฃับข้อสอบข้อเดียวกันถ้าเป็นแบบนี้
๑. ความผิดวินัยร้ายแรงตามข้อใดถูกต้องที่สุด ?
ก. การละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่าสิบห้าวัน โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
ข. ครูลงชื่อปฏิบัติหน้าที่ราชการแทนผู้อื่น
ค. การละทิ้งหน้าที่สอนไปดื่มสุรา
สมมติว่ามีแค่สามตัวเลือกท่านต้องถูกบีบให้เลือกข้อ ก แน่นอน แสดงว่าข้อ ข กับ ค ไม่มีน้ำหนักพอ วิธีคิดแบบนี้เรียกว่าแบบตรรกศาสตร์ ทีนี้เรามาหาคำตอบแบบนักกฎหมายดูมาตราประกอบ( ตามพ.ร.บ )มาตรา ๘๗ การละทิ้งหน้าที่ หรือทอดทิ้งหน้าที่ราชการโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร เป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง หรือการละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่าสิบห้าวัน โดยไม่มีเหตุผลอันควรหรือโดยมีพฤติการณ์อันแสดงถึงความจงใจไม่ปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ถ้าดูตามมาตรา ๘๗ ท่านจะตอบข้อไหน ผมว่าน่าจะเป็นข้อ ก ฃับ ส่วนข้อ ข และ ค ก็มีน้ำหนักแต่ยังไม่ชัดเจนตามมาตรานี้ ไปดูมาตราอื่นบ้าง
มาตรา ๘๘ การกลั่นแกล้ง ดูหมิ่น เหยียดหยาม กดขี่ หรือข่มเหงผู้เรียน หรือประชาชนผู้มาติดต่อราชการ อย่างร้ายแรง เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง มาตรา ๘๙ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องไม่กลั่นแกล้ง กล่าวหาหรือร้องเรียนผู้อื่นโดยปราศจากความเป็นจริงการกระทำตามวรรคหนึ่ง ถ้าเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรงมาตรา ๙๐ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องไม่
กระทำการหรือยอมให้ผู้อื่นกระทำการหาประโยชน์อันอาจทำให้เสื่อมเสียความเที่ยงธรรมหรือเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์ในตำแหน่งหน้าที่ราชการของตน การกระทำตามวรรคหนึ่ง เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรงมาตรา ๙๑ การคัดลอกหรือลอกเลียนผลงานทางวิชาการของผู้อื่น เป็นฃวามผิดวินัยอย่างร้ายแรงมาตรา ๙๓ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ต้องไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการดำเนินการใดๆอันมีลักษณะเป็นการทุจริตโดยการซื้อสิทธิหรือขายเสียงในการเลือกตั้งการดำเนินการที่ฝ่าฝืนหลักการดังกล่าวนี้ เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง มาตรา ๙๔ การกระทำ
ความผิดอาญาจนได้รับโทษจำคุก หรือโทษที่หนักกว่าจำคุก โดยคำพิพากษาถึงที่สุด ให้จำคุกหรือให้รับโทษที่หนักกว่าจำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ หรือกระทำการอื่นใดอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรงความผิดวินัยร้ายแรงมีตั้งหลายมาตราตั้งแต่ ๘๗ ถึง ๙๕ แต่พอสรุปได้ดังนี้
๑. ละทิ้งติดต่อกันเกิน ๑๕ วัน ม. ๘๗
๒. กลั่นแกล้ง ดูหมิ่นเหยียดหยามอย่างร้ายแรง (เน้นว่าอย่างร้ายแรง)จึงจะผิดวินัยอย่างร้ายแรง ม. ๘๙
๓. กระทำการหาประโยชน์อันอาจทำให้เสื่อมเสียฃวามเที่ยงธรรมหรือเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์ในตำแหน่งหน้าที่ราชการของตน ม. ๙๐
๔. การคัดลอกหรือลอกเลียนผลงานทางวิชาการของผู้อื่น ม. ๙๑
๕. ไม่เป็นกลางทางการเมืองทุจริตการซื้อเสียง ม. ๙๓
๖. การกระทำความผิดอาญาจนได้รับโทษจำคุก หรือโทษที่หนักกว่าจำคุก โดยคำพิพากษาถึงที่สุด ม. ๙๔
ทั้ง ๖ มาตราที่ปรากฏตามกฎหมายแม่บทถือว่าผิดวินัยร้ายแรง นอกเหนือประเด็นเหล่านี้ อาจจะผิดหรือไม่ผิดต้องไปตีความตอนนี้ท่านจำมาตราได้หรือยัง จำได้แล้วลองย้อนกลับไปดูข้อสอบ ว่าท่านจะตอบข้อไหน ผมว่าข้อสอบข้อนี้(ภาค ก ๕๒ ) มีโอกาสนำมาออกภาค ข อีก เพราะมันอยู่ในกฎหมายแม่บท
๒. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ ๒๕๔๒ ให้ไว้ ณ วันที่เท่าใด ?
ก. ๑๓ สิงหาคม ๒๕๔๒ ข. ๑๔ สิงหาคม ๒๕๔๒
ฃ. ๑๕ สิงหาคม ๒๕๔๒ ง. ๑๖ สิงหาคม ๒๕๔๒
๓. ข้อใดคือมาตรา ๑ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ ๒๕๔๒ ?
ก. พระราชบัญญัตินี้ตราขึ้นตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ศ ๒๕๕๐
ข. พระราชบัญญัตินี้ตราขึ้นตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ศ ๒๕๕๐ มาตรา ๒๙ และมาตรา ๕๐
ค. พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ ๒๕๔๒”
ง. พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ ๒๕๔๒ และแก้เพิ่มเติม พ.ศ ๒๕๔๕
๔. การจัดการศึกษาต้องเป็นไปตามข้อใด ?
ก. พัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์
ข. พัฒนาคนไทยให้ให้มีร่างกายและสติปัญญา
ค. พัฒนาคนไทยให้มีคุณธรรมจริยธรรม
ง. พัฒนาคนไทยให้ อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข
จะตอบข้อไหน ถ้าท่านเปิดตำรา พ.ร.บ การศึกษาดูแล้วจะเห็นว่า ทั้งหมดเป็นคำตอบที่ถูกแนวข้อสอบแบบนี้ท่านจะเห็นใน ภาค ก ปีนี้อยู่หลายข้อ ท่านลองคิดว่าข้อไหนสำคัญที่สุด ข้อ ข , ค , ง ทั้งสามข้อ จะไปรวมอยู่ในข้อ ก คือพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ หมายความว่าถ้าสมบูรณ์ ก็ควรจะมี ข้อ ข , ค , ง อยู่ในตัวทีนี้มาดูข้อสอบข้อที่สองฃับ สมมติว่าท่านไม่ได้อ่าน พ.ร.บ มา หรืออ่านแล้วจำไม่ได้
๕. การประเมินผลการจัดการศึกษาเพื่อจุดมุ่งหมายใด ?
ก. ตรวจสอบคุณภาพของนักเรียน ข. ตรวจสอบคุณภาพของครู
ค. ตรวจสอบคุณภาพผู้บริหาร ง. ตรวจสอบคุณภาพสถานศึกษา
ข้อสอบข้อนี้แม้จะไม่มีความรู้เรื่องนี้แต่มันหมูมาก คือ ตรวจสอบนักเรียน ครู ผู้บริหารทั้งสามคนที่กล่าวถึงจะรวมอยู่ในข้อ ง
๖.ท่านอยากจะบอกผู้อื่นว่าท่านมีสมรรถนะด้านการสื่อสารและจูงใจมากที่สุดท่านพูดอย่างไร
ก.ผมสามารถพูดจากับนักเรียนที่มาประท้วงจนนักเรียนเข้าใจ
ข.เมื่อคืนผมได้เอาผลงานโรงเรียนเผยแพร่ทางอินเตอรเนทแล้ว
ค.ผมเจรจากับนายก อบต ท่านเห็นชอบโครงการให้งบมาห้าหมื่น
ง. แต่ละข้อพอ ๆ กัน
๗. ข้อใดแสดงว่ามีสมรรถนะด้านการสื่อสารจูงใจ?
ก. เขียนได้ พูดได้ พูดไปรู้เรื่อง ข. ชักแม่นำทั้งห้ามาว่าให้คล้อยตาม
ค. คุยไปฟังไปจนบรรลุจุดหมาย ง. ทุกข้อถือว่ามีสมรรถนะด้านนี้
๘. ข้อใดแสดงว่าท่านมีสมรรถนะด้านวิสัยทัศน์อย่างโดดเด่น ?
ก. ประชุมร่วมกับบุคลากรเพื่อกำหนดทิศทางของโรงเรียน
ข.ทิศทางชัดเจน ทันสมัย สอดคล้ององค์กร
ค.สร้างพลังร่วมใจถ่ายทอดวิสัยทัศน์
ง. วิเคราะห์องค์กรปรับเปลี่ยนทิศทาง
๙. ในโรงเรียนพบนักเรียน ม.๑/๑ เป็นไขหวัด ๕ คน ท่านเป็นผู้บริหารโรงเรียนจะดำเนินการอย่างไร ?
ก. สั่งปิดเรียนเฉพาะ ม.๑/๑ หรือปิด ม.๑ ทุกห้อง
ข. แจ้งผู้ปกครองมารับนักเรียนกลับบ้าน
ค. แจ้ง สพฐ ขอปิดทุกระดับ ๗ วัน
ง. ขอคำแนะนำจากสาธารณสุข
ออกแน่ครับ ไข้หวัดสายพันธ์ใหม่ดุให้ดี ระวังมันจะตามไปหลอกไปหลอนท่านถึงในห้องสอบอย่าให้พลาดนะ
๑๐. ในฐานะที่ท่านเป็นผู้บริหารโรงเรียนท่านจะมอบหมายให้ครูรับผิดชอบงานประชาสัมพันธ์เพื่อสร้าง
ความประทับใจให้กับผู้มาติดต่อและลดข้อขัดแย้งที่เคยเป็น ท่านควรเลือกใคร ?
ก. บุคลิกดี สุภาพ พูดจาดี เรียบร้อย ข. บุคลิกดี มีความรู้ทางวิชาการแน่น
ค. มีมนุษยสัมพันธ์รู้ภาระงานในโรงเรียน ง. มีความสามารถสื่อสารและใช้เทคโนโลยีเป็นข้อสอบข้อนี้ดูแค่ตัวบ่งชี้ท่านจะหาคำตอบไม่เจอ เห็นเถียงกันไม่รู้จบว่าจะเลือกใครมาทำงานด้านนี้บางคนบอกว่าน่าจะเป็นคนนี้ บางคนบอกว่าน่าจะเป็นข้อนี้นะ ข้อ สอบระดับนี้ไม่ได้ออกมามั่ว ๆ จะใช้คำว่าน่าจะเป็นข้อนั้นข้อนี้มาเลือกคำตอบรับรองพลาดแน่ ต้องฟันธงอย่างเดียวก่อนทำข้อสอบข้อนี้ให้ท่านอ่านเรื่องของสมรรถนะการบริการทีดีก่อน
-สมรรถนะบริการที่ดี (Service Mind - SERV)
ตัวชี้วัด 1. การปรับปรุงระบบบริการ( ศึกษาฃวามต้องการของผู้รับบริการ นำข้อมูลมาปรับปรุงและพัฒนาระบบ บริการในเกือบทุกรายการอย่างต่อเนื่อง )
ตัวชี้วัด 2. วามพึงพอใจของผู้รับบริการหรือผู้เกี่ยวข้อง( ผู้รับบริการร้อยละ 80 ขึ้นไปมีความพึงพอใจ ระดับมาก ) ดูพจนานุกรมระดับรายการสมรรถนะบริการที่ดี
ระดับ 0 ไม่แสดงสมรรถนะด้านนี้อย่างชัดเจน
ระดับที่ 1 แสดงความเต็มใจในการให้บริการ
- ให้การบริการที่เป็นมิตร สุภาพ เต็มใจต้อนรับ
- ให้บริการด้วยอัธยาศัยไมตรีอันดี และสร้างความประทับใจแก่ผู้รับบริการ
- ให้คำแนะนำ และคอยติดตามเรื่อง เมื่อผู้รับบริการมีคำถาม ข้อเรียกร้องที่เกี่ยวกับภารกิจของหน่วยงาน
ระดับที่ 2 แสดงสมรรถนะระดับที่ 1 และสามารถให้บริการที่ผู้รับบริการต้องการได้
- ให้ข้อมูล ข่าวสาร ของการบริการที่ถูกต้อง ชัดเจนแก่ผู้รับบริการได้ตลอดการให้บริการ
- แจ้งให้ผู้รับบริการทราบความคืบหน้าในการดำเนินเรื่อง หรือขั้นตอนงานต่าง ๆ ที่ให้บริการอยู่
- ประสานงานภายในหน่วยงาน และกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ผู้รับบริการได้รับบริการที่ต่อเนื่องและรวดเร็ว
ระดับที่ 3 แสดงสมรรถนะระดับที่ 2 และเต็มใจช่วยแก้ปัญหาให้กับผู้บริการได้การอย่างรวดเร็ว
เต็มใจ ไม่บ่ายเบี่ยง รับเป็นธุระ ช่วยแก้ปัญหาหรือหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นแก่ผู้รับบริการอย่างรวดเร็ว เต็มใจ ไม่บ่ายเบี่ยง ไม่แก้ตัว หรือปัดภาระ
- คอยดูแลให้ผู้รับบริการได้รับความพึงพอใจ และนำข้อขัดข้องใด ๆ ในการให้บริการ (ถ้ามี) ไปพัฒนาการให้บริการให้ดียิ่งขึ้น
ระดับที่ 4 แสดงสมรรถนะระดับที่ 3 และให้บริการที่เกินความคาดหวังในระดับทั่วไป แม้ต้องใช้เวลาหรือ ความพยายามอย่างมาก
- ให้เวลาแก่ผู้รับบริการ โดยเฉพาะเมื่อผู้รับบริการประสบความยากลำบาก เช่น ให้เวลาและความพยายามพิเศษในการให้บริการ เพื่อช่วยผู้รับบริการแก้ปัญหา
- คอยให้ข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับงานที่กำลังให้บริการอยู่ ซึ่งเป็นประโยชน์แก่ผู้รับบริการ แม้ว่าผู้รับบริการจะไม่ได้ถามถึง หรือไม่ทราบมาก่อน
- ให้บริการที่เกินความคาดหวังในระดับทั่วไป ระดับที่ 5 แสดงสมรรถนะระดับที่ 4 และสามารถเข้าใจและให้บริการที่ตรงตามความต้องการที่แท้จริงของ ผู้รับบริการได้
- เข้าใจความจำเป็นหรือความต้องการที่แท้จริงของผู้รับบริการ และ/หรือ ใช้เวลา แสวงหาข้อมูลและทำความ เข้าใจเกี่ยวกับความจำเป็นหรือความต้องการที่แท้จริงของผู้รับบริการ
- ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์แก่ผู้รับบริการ เพื่อตอบสนองความจำเป็นหรือความ ต้องการที่แท้จริงของผู้รับบริการ
ระดับที่ 6 แสดงสมรรถนะระดับที่ 5 และสามารถให้บริการที่เป็นประโยชน์อย่างแท้จริง และยั่งยืนให้กับ ผู้รับบริการ
- เล็ง เห็นผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับผู้รับบริการในระยะยาว และสามารถเปลี่ยนแปลงวิธีหรือขั้นตอนการ ให้บริการ เพื่อให้ผู้รับบริการได้ประโยชน์สูงสุด
- ปฏิบัติตนเป็นที่ปรึกษาที่ผู้รับบริการไว้วางใจ ตลอดจนมีส่วนช่วยในการตัดสินใจของผู้รับบริการ
- สามารถให้ความเห็นส่วนตัวที่อาจแตกต่างไปจากวิธีการ หรือขั้นตอนที่ผู้รับบริการต้องการ เพื่อให้ สอดฃล้องกับฃวามจำเป็น ปัญหา โอกาส ฯลฯ เพื่อประโยชน์อย่างแท้จริงหรือในระยะยาวแก่ผู้รับบริการ
ทีนี้เรามาวิเคราะห์กัน โจทย์ต้องการคนมาบริการที่สร้างความประทับใจลดข้อขัดแย้ง ดู ตัวเลือก ก. บุคลิกดี สุภาพ พูดจาดี เรียบร้อย ข้อนี้แค่บุคลิกดี ยิ้มแย้มแจ่มใส เข้าพจนานุกรมระดับที่ ๑ เท่านั้นเองคือลักษณะถึงจะดูแล้วดี แต่พอผู้รับบริการถามอะไรอาจจะไม่รู้เรื่อง สุดท้ายความพึงพอใจไม่เกิดทีนี้มาดู ข้อ ข. กัน บุคลิกดี มีความรู้
ทางวิชาการแน่น ข้อนี้คล้าย ๆ ข้อ ก. ครับ เพียงแต่เพิ่มคำว่าวิชาการแน่นเข้าไป ซึ่งไม่เกี่ยวกันเลย มาดูข้อ คบ้าง มีมนุษยสัมพันธ์รู้ภาระงานในโรงเรียน ข้อนี้น่าสนใจ การรู้ภาระงานจะสามารถแสดงสมรรถนะระดับที่สี่ คือในระดับที่สี่ มีคำว่าคอยให้ข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับงานที่กำลังให้บริการอยู่ และในระดับที่ห้ามีคำว่าให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์แก่ผู้รับบริการอยู่รู้ภาระงานก็สามารถให้คำแนะนำ ให้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องได้ผู้มารับบริการมาถามอะไรก็ตอบได้เกิดความพึงพอใจคับ แต่ถ้าถามอะไรก็ไม่รู้ถึงจะยิ้มแย้มแจ่มใสแบบนี้ท่านก็คงไม่สบอารมณ์ ไม่เกิดความพึงพอใจแน่นอน เห็นไหมคับสุดท้ายก็มาลงที่ความพึงพอใจจำไว้นะครับการบริการนั้น
จะต้องให้เกิดความพึงพอใจ ถ้าจะให้ก็ให้พึงพอใจ 80 % ขึ้นไป
๑๑. โรงเรียนมีน้ำดื่มเพียงพอ แต่ตรวจสอบแล้วคุณภาพของน้ำไม่ดีขาดคุณภาพท่านจะบริหารอย่างไร ?
ก. ให้นักเรียนนำน้ำจากบ้านมาดื่ม ข. ให้ผู้รับจ้างมาจำหน่ายน้ำดื่มในโรงเรียนค. ปรับปรุงซ่อมแซมระบบน้ำดื่มที่มีอยู่ ง. โรงเรียนขายน้ำให้เด็กเอง
ข้อสอบข้อนี่ง่าย เป็นเรื่องของการบริการ
ตัวชี้วัด 1. การปรับปรุงระบบบริการ(ศึกษาความต้องการของผู้รับบริการนำข้อมูลมาปรับปรุงและพัฒนา ระบบ บริการในเกือบทุกรายการอย่างต่อเนื่อง )
ตัวชี้วัด 2. ความพึงพอใจของผู้รับบริการหรือผู้เกี่ยวข้อง( ผู้รับบริการร้อยละ 80 ขึ้นไป มีความพึงพอใจระดับมาก )
มาวิเคราะห์กัน
ตัวเลือก ก. ให้นักเรียนนำน้ำจากบ้านมาดื่ม ถ้าหากดำเนินการตามข้อ ก. หมายถึงท่านไม่ได้แสดงสมรรถนะด้านการบริการที่ดีเลย ไม่มีการปรับปรุง ผลักภาระไปให้นักเรียน ไม่เกิดความพึงพอใจ
ตัวเลือก ข. ให้ผู้รับจ้างมาจำหน่ายน้ำดื่มในโรงเรียน ข้อนี้ ก็คล้ายกับ ข้อ ก คือ ยังไม่มีการปรับปรุงบริการยังผลักภาระให้นักเรียนอยู่
ตัวเลือก ค. ปรับปรุงซ่อมแซมระบบน้ำดื่มที่มีอยู่ ข้อนี้มีการปรับปรุงบริการ ท่านได้แสดงสมรรถนะ
ส่วนข้อ ง. โรงเรียนขายน้ำให้เด็กเอง ลักษณะจะเหมือน ข เป็นการผลักภาระให้เด็กต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
ข้อสอบข้อเดียวกันนี้ถ้าตัวเลือกเป็นแบบนี้บ้าง
๑๒. โรงเรียนมีน้ำดื่มเพียงพอ แต่ตรวจสอบแล้วคุณภาพของน้ำไม่ดีขาดคุณภาพท่านจะบริหารอย่างไร ?
ก. ให้นักเรียนนำน้ำจากบ้านมาดื่ม ข. ให้ผู้รับจ้างมาจำหน่ายน้ำดื่มในโรงเรียน
ค. ปรับปรุงซ่อมแซมระบบน้ำดื่มที่มีอยู่ ง. ตรวจสอบระบบน้ำแล้วติดตั้งเครื่องกรองน้ำใหม่
ถ้าข้อสอบเป็นแบบนี้จะเห็นว่าตัวเลือกที่จะถูกมีสองตัวเลือกคือ ค. กับ ง. ถ้าเป็นแบบนี้ท่านต้องไปดูที่พจนานุกรมระดับรายการสมรรถนะบริการที่ดี จะเข้าระดับสูงสุดเลย
ระดับที่ 6 แสดงสมรรถนะระดับที่ 5 และสามารถให้บริการที่เป็นประโยชน์อย่างแท้จริงและยั่งยืนให้กับผู้รับบริการ
- เล็ง เห็นผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับผู้รับบริการในระยะยาว และสามรถเปลี่ยนแปลงวิธีหรือขั้นตอนการ ให้บริการ เพื่อให้ผู้รับบริการได้ประโยชน์สูงสุด
- ปฏิบัติตนเป็นที่ปรึกษาที่ผู้รับบริการไว้วางใจ ตลอดจนมีส่วนช่วยในการตัดสินใจของผู้รับบริการ
- สามารถให้ความเห็นส่วนตัวที่อาจแตกต่างไปจากวิธีการ หรือขั้นตอนที่ผู้รับบริการต้องการ เพื่อให้ สอดคล้องกับความจำเป็น ปัญหา โอกาส ฯลฯ เพื่อประโยชน์อย่างแท้จริงหรือในระยะยาวแก่ผู้รับบริการพอดูแล้วจะพบว่า ข้อ ง เป็นไปตามพจนานุกรมระดับสูงสุดเลย คือ การติดตั้งเครื่องกรองน้ำใหม่จะเกิด
ประโยชน์ในระยะยาวและยั่งยืน ส่วนข้อ ค การซ่อม อาจจะเสียอีก ซ่อมแล้วคุณภาพก็อาจจะไม่ดีพอยังไงก็สู้การติดตั้งใหม่ไม่ได้ ยั่งยืนกว่า และระยะเวลาการใช้งานก็ได้นานกว่า เพราะฉะนั้นตอบข้อ ง. ครับ
๑๓. ในปี พ.ศ 2552 ท่านถูกเรียกไปบรรจุตำแหน่ง ผอ โรงเรียนแห่งหนึ่ง พบว่านักเรียนจำนวนหนึ่งอ่านหนัง สือไม่ออก หนังสือในห้องสมุดก็เก่ามากไม่น่าอ่าน อาคารและห้องสมุดยังแข็งแรงดี แต่สภาพในห้องไม่จูงใจให้นักเรียนเข้าไปอ่านหนังสือ ท่านจะแก้ปัญหาอย่างไร ?
ก. เรียกครูบรรณารักษ์มาเตือนให้ปรับปรุงห้องสมุด แล้วให้ครูที่ปรึกษาสำรวจนักเรียน ที่อ่านไม่ออก
ข. จัดหาห้องสมุดใหม่ แล้วส่งครูบรรณนารักษ์ไปอบรมโครงการห้องสมุดมีชีวิต
ค. ให้ครูบรรณารักษ์ไปอบรมโครงการห้องสมุดมีชีวิต นำมาปรับใช้ร่วมกับโครงการห้องสมุด 3ดี และให้ครูภาษาไทยทำโครงการคลินิกการอ่าน
ง. จัดงบประมาณสร้างอาคารใหม่ทำห้องสมุดใหญ่กว่าเดิม เปลี่ยนครูบรรณารักษ์ใหม่และให้ครูภาษาไทยทำโครงการคลินิกการอ่าน
ข้อสอบข้อนี้เริ่มมีความซับซ้อนขึ้น มีทั้ง นโยบายเข้ามาเกี่ยวข้อง มีทั้งสมรรถนะ เข้ามาเกี่ยวข้อง ต้องวิเคราะห์ให้ดี คำว่า สภาพห้องสมุดไม่จูงใจ แสดงว่าท่านต้องแสดงสมรรถนะด้านการบริการ และสภาพห้องสมุดไม่จูงใจยังบ่งชี้ว่าบรรณารักษ์ดูแลไม่ดี ท่านต้องแสดงสมรรถนะการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้วยและในช่วงนี้นโยบายห้องสมุดมีชวิต สพฐ ก็ออกมา นโยบายห้องสมุด 3 ดี ของกระทรวง ศธ ก็ออกมาพร้อม ๆ กันดังนั้นท่านต้องบริหารจัดการให้สอดคล้องกับนโยบายด้วย ปัญหาเด็กอ่านไม่ออกก็ต้องรอท่านลงไปกำกับติดตาม
เฉลยข้อ ค ข้อสอบข้อนี้น่าสนใจครับ มาวิเคราะห์กันหน่อย ปัญหา เด็กอ่านไม่ออกจะต้องหาทางแก้ไขโครงการคลินิกการอ่านช่วยได้ การให้ครูบรรณารักษ์ไปอบรมตรงนี้ท่านได้แสดงสมรรถนะการพัฒนาศักยภาพบุคลากร โครงการห้องสมุดมีชีวิตเป็นของสพฐ ที่ออกมาในช่วงนี้โครงการ ห้องสมุด 3 ดี เป็น นโยบายรมว. กระทรวง ศธ. ที่ออกมาในช่วงนี้ นักเรียนไม่อยากเข้าห้องสมุดโครงการห้องสมุด 3 ดี ช่วยได้ไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมด้วย ข้อนี้ท่านอาจจะแย้งว่า การจัดสร้างอาคารใหม่ ทำห้องสมุดใหม่ ต้องเข้าพจนานุกรมระดับที่ 6 ของการบริการที่ดี คือ ทำให้เกิดความยั่งยืนยาวนาน แต่ว่าช่วงนี้นโยบายห้องสมุด 3 ดี เน้นการประหยัด ไม่เน้นการสร้างอาคารดังนั้นท่านต้องบริหารจัดการให้สอดคล้องกับนโยบายด้วย แค่ปรับปรุงตามนโยบายก็ได้แล้ว

๑๔. กระทรวงศึกษาธิการจัดตั้ง ศูนย์เสมารักษ์ และเปิดสายด่วน 1579 เพื่อจุดประสงฃ์ใด ?
ก.เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประสานงานและขับเคลื่อนการส่งเสริมความประพฤตินักเรียนนักศึกษา
ข. เป็นศูนย์กลางดูแลแก้ไขปัญหาความประพฤตินักเรียนนักศึกษา
ค. แก้ไขปัญหาความประพฤติและคุ้มครองสิทธิของนักเรียนนักศึกษา
ง. ถูกทุกข้อ
เฉลยข้อ ง. ( การฟื้นศูนย์เสมารักษ์ ไทยรัฐ 26 มิ.ย 52 )
๑๕. นโยบายประวัติศาสตร์เกี่ยวข้องกับหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ 2544 อย่างไร ?
ก. ไม่เกี่ยวข้องกัน นโยบายการจัดการเรียนการสอนประวัติศาสตร์มีเฉพาะในหลักสูตรแกนกลาง
ข. ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จัดวิชาประวัติศาสตร์เป็นรายวิชาเพิ่มเติมสัปดาห์ละ 1ชั่วโมง
ค. ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 3 จัดวิชาประวัติศาสตร์เป็นรายวิชาเพิ่มเติมสัปดาห์ละ 1 ชั่วโมง
ง. ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 – 6 จัดวิชาประวัติศาสตร์เป็นรายวิชาพื้นฐานจำนวน 2 หน่วยกิต
เฉลยข้อ ง ให้ดูที่ (แนวปฏิบัติที่สอดคล้องกับนโยบายการจัดการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ สพฐ )
๑๖. ท่านมีความจำเป็นต้องทำหนังสือถึงรัฐมนตรีกระทรวงICT ท่านจะใช้คำขึ้นต้นอย่างไรและใช้กระดาษชนิดใด ?
๑๖. ท่านมีความจำเป็นต้องทำหนังสือถึงรัฐมนตรีกระทรวงICT ท่านจะใช้คำขึ้นต้นอย่างไรและใช้กระดาษชนิดใด ?
ก. เรียน ฯ พณ ฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ICT และใช้กระดาษตราครุฑ
ข. กราบเรียน ฯ พณ ฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ICT และใช้กระดาษบันทึกข้อความ
ค. เรียน รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ICT และใช้กระดาษตราครุฑ
ง. เรียน รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ICT และใช้กระดาษบันทึกข้อความ
เฉลยข้อ ค (แนวปฏิบัติสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่องการใช้คำนำหน้าตำแหน่งในหนังสือราชการ ลงวันที่12 เม.ย 48 และระเบียนงานสารบัญ ข้อ 10 และ ข้อ 11.5 )
๑๗. การเลือกตั้ง อ.ก.ค.ศ เขตพื้นที่การศึกษา และการเลือกตั้ง ก.ค.ศ ที่หมดวาระในวันที่ 20 มิ.ย 52เป็นไปตามข้อใด ?
ก. จัดให้มีเลือกตั้ง อ.ก.ค.ศ เขตพื้นที่การศึกษา และ ก.ค.ศ พร้อมกันเพื่อความโปร่งใส
ข. จัดให้มีเลือกตั้ง อ.ก.ค.ศ เขตพื้นที่การศึกษา และ ก.ค.ศ พร้อมกันเพื่อความประหยัด ลดการซ้ำซ้อน
ค. จัดให้มีเลือกตั้ง อ.ก.ค.ศ เขตพื้นที่การศึกษา และ ก.ค.ศ ไม่พร้อมกันเพื่อความโปร่งใส
ง. จัดให้มีเลือกตั้ง อ.ก.ค.ศ เขตพื้นที่การศึกษา และ ก.ค.ศ ไม่พร้อมกันเพื่อให้โอกาสผู้สมัคร
เฉลยข้อ ข. ( ดูที่หนังสือซักซ้อมความเข้าใจ ก.ค.ศ ลงวันที่ 22 มิ.ย 52 )
๑๘. ในปี พ.ศ 2552 ท่านถูกเรียกไปบรรจุตำแหน่ง ผอ โรงเรียนแห่งหนึ่งพบว่า นักเรียนจำนวนหนึ่งอ่านหนังสือไม่ออก หนังสือในห้องสมุดก็เก่ามากไม่น่าอ่าน อาคารและห้องสมุดยังแข็งแรงดี แต่สภาพในห้องไม่จูงใจให้
นักเรียนเข้าไปอ่านหนังสือ ท่านจะแก้ปัญหาอย่างไร ?
ก. เรียกครูบรรณารักษ์มาเตือนให้ปรับปรุงห้องสมุด แล้วให้ครูที่ปรึกษาสำรวจนักเรียนที่อ่านไม่ออก
ข. จัดหาห้องสมุดใหม่ แล้วส่งครูบรรณนารักษ์ไปอบรมโครงการห้องสมุดมีชีวิต
ค. ให้ครูบรรณารักษ์ไปอบรมโครงการห้องสมุดมีชีวิต นำมาปรับใช้ร่วมกับโครงการห้องสมุด 3 ดี และให้ครูภาษาไทยทำโครงการคลินิกการอ่าน
ง. จัดงบประมาณสร้างอาคารใหม่ทำห้องสมุดใหญ่กว่าเดิม เปลี่ยนครูบรรณารักษ์ใหม่ และให้ครูภาษาไทยทำโครงการคลินิกการอ่าน
เฉลยข้อ ค. ข้อสอบข้อนี้น่าสนใจ มาวิเคราะห์กันหน่อยฃับ ปัญหา เด็กอ่านไม่ออกจะต้องหาทางแก้ไขโครงการคลินิกการอ่านช่วยได้ การให้ครูบรรณารักษ์ไปอบรม ตรงนี้ท่านได้แสดงสมรรถนะการพัฒนาศักยภาพ
บุคลากร โครงการห้องสมุดมีชีวิตเป็นของสพฐ ที่ออกมาในช่วงนี้โครงการ ห้องสมุด 3 ดี เป็น นโยบาย รมว.กระทรวง ศ.ธ ที่ออกมาในช่วงนี้ นักเรียนไม่อยากเข้าห้องสมุดโครงการห้องสมุด 3 ดี ช่วยได้ไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมด้วย
๑๙. โครงการเรียนฟรี 15 ปี มียอดการสละสิทธิ์ ทั้งสิ้น 40 ล้านบาท สพฐ ดำเนิการ กับเงินจำนวนนี้อย่างไร ?
ก. คืนเงินให้กับโรงเรียนที่นักเรียนสละสิทธิ์เป็นเงินรายได้สถานศึกษา
ข. นำฝากเป็นเงินรายได้แผ่นดิน
ค. มอบเงินดังกล่าวให้โรงเรียนที่ไม่ผ่านการประเมินคุณภาพของ สมศ
ง. เก็บเงินดังกล่าวไว้ใช้ในโครงการเรียนฟรี 15 ปีในปีการศึกษาถัดไปเฉลย ค. มอบเงินดังกล่าวให้โรงเรียนที่ไม่ผ่านการประเมินคุณภาพของสมศ.นำไปพัฒนาโรงเรียนโดยการวางแผนวิเคราะห์หาสาเหตุแล้วพัฒนา
๒๐. ถ้าท่านเป็นผู้บริหารโรงเรียนจะพัฒนาตนเองอย่างไร?
ก. ศึกษาดูงานเพื่อนำมาปรับปรุงโรงเรียน
ข.ไปอบรมตามที่ได้รับคำสั่งจากเขตพื้นที่ด้วยตนเอง
ค. ศึกษาค้นคว้าจากอินเตอร์เน็ตจนเป็นผู้เชี่ยวชาญการท่องเว็บ
ง. หาความรู้จากการอ่านอย่างต่อเนื่องและนำมาบอกความรู้แก่ครู
วิธีการหาคำตอบ
1.ให้ดูตัวชี้วัดพฤติกรรมลำดับแรก
2.ดูพจนานุกรมลำดับที่สอง
3.ดูระดับสมรรถนะประกอบ
คำ จำกัดความ ก.ค.ศ ด้านการพัฒนาตนเอง
การศึกษาค้นคว้าหาความรู้ติดตามองค์ความรู้และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในวงวิชาการและ วิชาชีพเพื่อพัฒนางาน ตัวชี้วัดพฤติกรรม
1. ...การศึกษาฃ้นคว้าหาความ รู้ ด้วยการเข้าประชุมวิชาการ อบรม สัมมนา หรือวิชาการอื่น ๆ (ไม่น้อยกว่า 20 ชั่วโมง/ปี และมีการจัดทำเอกสารเสนอที่ประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างน้อยสองรายการต่อปี)
2...การรวบรวม และประมวลผลความรู้ในการพัฒนาองค์กรและ พัฒนาวิชาชีพ (มีการสังเคราะห์ข้อมูลความรู้เป็นหมวดหมู่ ปรับปรุงให้ทันสมัย รวบรวมเป็นองค์ความรู้สำคัญ เพื่อใช้ในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง)
3...การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้าน วิชาการในหมู่เพื่อนร่วมงาน (มีการประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ภายในหน่วยงาน ร้อยละ 80 ขึ้นไป ของจำนวนกิจกรรมที่หน่วยงานจัด)
4. ดูพจนานุกรมระดับที่สูงสุด คือ ระดับที่5 ระดับที่ 5 แสดงสมรรถนะระดับที่ 4 และสนับสนุนการทำงานของคนในองค์กรที่เน้นความเชี่ยวชาญใน วิทยาการด้านต่าง ๆ
- สนับสนุนให้เกิดบรรยากาศแห่งการพัฒนาความเชี่ยวชาญในองค์กรด้วยการจัดสรรทรัพยากร เครื่องมือ อุปกรณ์ที่เอื้อต่อการพัฒนา
- ให้การสนับสนุน ชมเชย เมื่อมีผู้แสดงออกถึงความตั้งใจที่จะพัฒนาความเชี่ยวชาญในงาน
- มีวิสัยทัศน์ในการเล็งเห็นประโยชน์ของเทคโนโลยี องค์ความรู้ หรือวิทยาการใหม่ ๆ ต่อการปฏิบัติงานใน อนาคต และสนับสนุนส่งเสริมให้มีการนำมาประยุกต์ใช้ในหน่วยงานอย่างต่อเนื่อง พิจารณาตัวเลือก
ก พบว่าการศึกษาดูงานจะเข้ากับตัวชี้วัดข้อที่ 1
ข ไปอบรมจะมีในตัวชี้วัดที่ 1
ค .มีในพจนานุกรมระดับที่ 5
ง.หาความรู้จากการอ่านมีในตัวชี้วัดข้อ 1
จาก ตัวเลือกทั้ง 4 พบว่าเข้าสมรรถนะทุกข้อแต่ข้อ ก เข้าระดับสมรรถนะระดับที่ 5 สูงสุด คือมีการนำความรู้มาใช้ในองค์กร ส่วนข้อ ง เป็นการนำความรุ้มาบอกครู บอกอย่างเดียวไม่เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ตอบข้อ ก.

หมายเหตุ
**ข้อมูลส่วนใหญ่เป็นการรวบรวมมาจากแหล่งข้อมูลต่างๆ กราบขออภัยหากการอ้างอิงแสดงไว้ไม่ทั่วถึง...ขอทุกท่านอธิษฐานจิตให้ผลกุศลคุณงามความดีต่างๆ บังเกิดผลแด่ท่านผู้เป็นเจ้าของต้นฉบับ..และ..การนำมาแผยแพร่นี้..เป็นการเอื้อเฝื่อเกิ้อกูลกันตามแบบอย่างธรรมเนียมไทย...ขอทุกท่านใช้ข้อมูลเหล่านี้..เพื่อประโยชน์ท่าน..ประโยชน์สังคมให้เต็มที่เถิด

***ถ้าข้อมูลส่วนใดเก่า...ล้าสมัยก็อย่าไปใส่ใจนะครับ....มีความคิดเห็นใดๆ...โปรดแสดงความคิดเห็นของท่านกลับให้ทราบด้วย...ขอขอพระคุณ
ครูปู-ปุถุชน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น